วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง)
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก    |  
 
   Main webboard   »   เว็บบอร์ด
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Started by
Topic:    โผ ครม. นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 2 ออกมาแล้วใครเป็นใคร /  (Read: 926 times - Reply: 0 comments)   
ทิวไผ่ลำเนาไพร

Posts: 0 topics
Joined: none

โผ ครม. นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 2 ออกมาแล้วใครเป็นใคร /
« Thread Started on 19/1/2555 9:02:00 IP : 113.53.40.75 »
 
วานนี้(17ม.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ  และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการสลับและปรับหลายตำแหน่งสำคัญ ว่า การตัดสินใจเป็นสิทธิขาดที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเคาะได้ทันที ไม่จำเป็นต้องพิจารณากรอบเวลา ส่วนรายชื่อที่จะมีการปรับเปลี่ยนนั้น จากที่ สื่อนำเสนอตนเห็นว่าแม่นยำกว่า 90%
ทั้งนี้นายกิตติรัตน์ ยังเชื่อว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จะเป็นผลดีต่อประเทศ เพราะทำให้การทำงานมีความเข้มแข็งมากขึ้น บางคนถูกโยกไปที่อื่นที่งานหนักขึ้น บางคนไปทำงานนอก ครม. แต่หลังจากปรับ ครม.แล้ว เชื่อว่ายังมีการทำงานต่อเนื่อง เพราะเป็นการกำหนดนโยบายรัฐบาล
“ส่วนตัว นายกฯ ไม่เคยมาบอกอะไร ไปโน่นมานี่ เป็นดุลพินิจของนายกฯ ทั้งหมด”
ด้านพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม กล่วยอมรับว่าไม่รู้เรื่องการปรับ ครม.เลย ทั้งเรื่องที่ว่ามีการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว หรือแม้แต่ข่าวถูกโยกไปเป็น รมว. แทนพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ซึ่งเพิ่งรู้จากสื่อเมื่อเช้าวันนี้
“ยังคงยืนยันว่าหากถูกปรับออกจริง ก็พร้อมยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ หรือหากถูกโยกย้ายไปคุมกลาโหมก็พร้อม หากนายกฯเห็นว่าเหมาะสม”
** 00…”สุชาติ”  โวรคน่างนโยบายศึกษา
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)  กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.และมีชื่อเขาไปเป็นรมว.ศึกษาธิการ ว่ายังไม่ทราบแน่นอน ต้องรอให้มีความชัดเจนก่อน อย่างไรก็ตาม ตนเป็นผู้ร่างนโยบายด้านการศึกษาให้แก่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
สำหรับนโยบายด้านการศึกษานั้น  จะลดรายจ่ายครูด้วยการไม่ให้ซื้อขายตำแหน่ง ทุกครั้งที่แต่งตั้งโยกย้ายทราบว่ามีการจ่ายเงินจำนวนมาก ครูที่ต้องการย้าย จึงต้องไปกู้เงินมา ทำให้ครูเป็นหนี้ ดังนั้นการลดหนี้คือการไม่มีซืิ้่อขายเก้าอี้ ส่วนนโยบายเพิ่มรายได้นั้น จะให้คนไทยทุกคนจบ ม.6 ดังนั้นจะให้ครูเปิดสอนวัน เสาร์-อาทิตย์ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้
*
**00…รมต.เก่าหลุดวงโคจร 9คน
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่ามา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำรายชื่อครม.ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว โดยมีการปรับทั้งสิ้น 16 ตำแหน่ง ดังนี้
1.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เป็น รองนายกฯและรมว.คลัง 2.พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม เป็นรองนายกฯ 3.พล.อ.อ. สุุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม เป็น รมว.กลาโหม 4.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นรมว.คมนาคม 5.นายอารักษ์ ชลธารนนท์ อดีตผู้บริหารไทยคม เป็นรมว.พลังงาน
 6.นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง เป็นรมว.ศึกษาธิการ
7.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เป็นรมว.พาณิชย์  8.นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เป็น รมต.สำนักนายกฯ 9.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นรมต.สำนักนายกฯ 10.นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เป็นรมต.สำนักนายกฯ 11.นายณัฐวุฒิใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
 พรรค เพื่อไทย เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ 12.นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.สำนักนายกฯ เป็นรมช.สาธารณสุข 13.นายศักดา คงเพชร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็น รมช.ศึกษา ธิการ  14.นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็น รมช.คลัง 15.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคม จากจุฬาลงกรณ์ เป็นรมช.คมนาคม และ16. ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ อดีตคณบดีคณะนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นรมว. อุตสาหกรรม
สำหรับการปรับ ครม.ครั้งนี้ มีผู้หลุดจากตำแหน่งท รวมั้งสิ้น 9 ราย ดังนี้
1.พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ 2.นายธีระชัย ภวนาถนรานุบาล รมว.คลัง 3.นายพิชัย นรพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน 4.น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.สำนักนายกฯ
5.นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.คมนาคม 6.นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 7.นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข 8.นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพร วิไล รมช.ศึกษาธิการ และ 9.นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม
***00…ฐิติมายันโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว
ทางด้านนางฐิติมา ฉายแสง โฆษกสำนักนายกกล่าวยอมรับว่าได้มีการนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าใครจะอยู่กระทรวงไหน บ้างและไม่อยาก ให้เปิดเผยในเรื่องนี้ ทั้งนี้การปรับครม.เป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งจะมีบางคนที่เข้ามาและบางคนที่ออกไป รวม10 กว่าตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่จะมีการปรับตำแหน่งโฆษกสำนักนายกฯ นั้นจริงหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐ มนตรี แต่ตนยินดีหากใคร มาทำหน้าที่นี้ เพราะงานตรงนี้เป็นงานที่ยากซึ่งต้องรู้ทุกเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและต่างประเทศ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครจะมา ช่วยทำ งานนี้ให้ได้บ้าง แต่ตนจะ ทำงานไปจนถึงนาทีสุดท้ายเท่าที่ทำได้ โดยการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายกฯไม่ว่าจะปรับ เปลี่ยนรัฐมนตรีหรือตำแหน่งใดก็แล้วแต่ ปล่อย ให้ นายกฯ มีแนวคิดเป็นของตัวเอง
ต่อข้อถามว่า ส่วนตัวอยากทำงานต่อหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า งานโฆษกสำนักนายกฯเป็นงานที่ท้าทายมาก แต่คิดว่าการทำงานยังไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ เพราะว่าองคาพยพไม่สามารถซัพพอร์ตได้ดีนัก ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันให้มากยิ่งขึ้น คิดว่าหากครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนเอาคนใหม่เข้ามา ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวระบุว่าจะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นรองเลขาธิการนายกฯ นางฐิติมา กล่าว ไม่ทราบ ตนยังไม่เคยได้ยิน ซึ่งตนจะถนัดในการติดตามงาน อาจจะไม่ใช่คนที่จะมาอยู่หน้าทีวีบ่อยๆ
“ขณะนี้ได้มีการโปรดเกล้าฯ รายชื่อครม.แล้ว ซึ่งรายชื่อทั้งหมดอยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กำลังตรวจสอบรายชื่อ ที่ถูก ต้องอยู่ก่อนที่จะเผยแพร่” นางฐิติมา กล่าว
*
**00…ปชป.ชี้ปรับครม.ปูนบำเหน็จแดงชัด
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกระแสการปรับครม.ว่า เป็นไปตามความคาดหมายที่รวบรัดการปรับครม.โดยเร็ว เพราะกลัวแรงกระเพื่อมที่จะเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย อีกทั้ง การปรับครม.ครั้งนี้ เป็นการเปิดทางให้แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามา รับตำแหน่งแน่นอน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงนั้น มีความสำคัญในพรรคเพื่อไทยและยึดอำนาจภายในพรรคเพื่อไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งในประเด็นดัง
กล่าวนี้ ยังเห็นได้จากการบีบบังคับให้ ครม.มีมติชดเชยเงินเยียวยาให้คนเสื้อแดง ศพละ7.75 ล้านบาทได้สำเร็จ และมาครั้งนี้ก็เข้ายึดตำแหน่งทางการเมืองในครม.ได้อีก
นายเทพไท กล้่าวด้วยว่าภายหลังการเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทย ยังแสดงท่าทีเหนียมอาย และห่วงกระแสสังคม ที่ไม่กล้าให้ตำแหน่ง รมต.กับแกนนำคนเสื้อแดง แต่ผ่านมาแค่ 4 เดือน ที่สุดก็เปิดเผยธาตุแท้ว่า คนเสื้อแดงต้องทวงบุญคุณเสียงสนับสนุนของมวลชนของตัวเองจนได้เป็นรัฐบาล เพราะหากไม่มีการสนองตอบ ต่อความ ต้อง
การของคนเสื้อแดง รัฐบาลนี้อาจจะมีปัญหาทางการเมืองได้ เพราะยังมีภารกิจใหญ่ ที่รัฐบาลนี้ต้องทำอีกหลายอย่างซึ่งยังต้องพึ่งคนเสื้อแดง เช่นการแก้ไขรัฐธรรม นูญ เพื่อเปิดทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางกลับประเทศ และการทวงคืนทรัพย์สินที่ถูกศาลสั่งยึดทรัพย์
นายเทพไท กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความคิดที่จะปูนบำเหน็จให้คนเสื้อแดง ก็ควรสนับสนุนให้นายจตุพร พรหมพันธ์ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้ารับ ตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย เพราะหากเปรียบเทียบคุณสมบัติกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  ที่มีข่าวว่าจะได้รับตำแหน่ง กับนายจตุพรจะเห็นว่า นายจตุพร มีคุณสมบัติเหนือกว่าหลาย ด้าน ทั้งวัยวุฒิ ความอาวุโสทางการเมือง ความรู้ความสามารถ ความกล้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ด้อยกว่านายณัฐวุฒิ ประกอบกับนายจตุพร กำลังอยู่ ระหว่าง
กระบวนการตีความของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะขาดสมาชิกภาพจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยก็ควรปูนบำเหน็จให้นายจตุพร เป็นรมต.เพื่อรองรับ การหลุดพ้นจากการเป็นส.ส.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.ปชป.กล่าวถึงการปรับครม.ว่า โดยส่วนตัวมองว่ารัฐบาลมีอำนาจและมีสิทธิที่จะกระทำการได้ เพียงแต่ว่าการปรับนั้น เป็นเพียงการ เปลี่ยนตัวผู้แสดงหรือเบี้ยทางการเมือง เพราะสุดท้ายก็ยังเป็น ครม.ที่เป็นระบบทักษิณส่วนหน้า นอกจากนี้การปรับ ครม. เป็นการปรับที่มีลักษณะต่างตอบแทนบาง กระทรวง โดยมีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามจะเป็นกระทรวงไหนนั้นตนไม่สามารถตอบได้คงต้องรอดูไปสักระยะก่อน
*
**00″”"แส่ข้องไม่เด้ง”ประชา-ยงยุทธ”
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ สภาฯ  กล่าวถึงการ ปรับครม.ของรัฐบาลว่า การที่นายกฯได้ตัดสินใจปรับครม.ซึ่งถือเป็นสิทธิและอำนาจของนายกฯในการตัดสินใจ แต่แปลกใจในส่วนที่ควรปรับแต่ไม่ปรับ โดยเฉพาะ 2 คนที่ถูก
วิพากษ์วิจารณ์การทำงานได้แก่การบริหารจัดการศปภ. คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. รวมถึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกฯ ที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ซึ่งเมื่อนายกฯเชื่อข้อมูลของทั้ง สองคน นายกฯก็ต้องร่วมรับผิดชอบหากในอนาคตเกิดปัญหาขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ในส่วนความคืบหน้าการพิจารณากรณีการจัดซื้อถุงยังชีพ 1 แสนถุง ถุงล่ะ 800 บาท วงเงิน 80 ล้านบาท ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในส่วนของกมธ. ป.ป.ช. นั้น ในวันที่ 19 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ อธิบดีปภ.จะเข้าชี้แจงกมธ. โดยกมธ.ตั้งประเด็นต้องการคำชี้แจงกระบวนการจัดซื้อในภาพรวม โดยเฉพาะการใช้อำนาจของนายวิบูลย์ ในการตั้งรักษาราชการแทนอธิบดี จนมีการลงนามในการจัดซื้อถุงยังชีพจนเกิดปัญหาขึ้น โดยเบื้องต้นมีข้อสงสัยว่ามีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องตั้งรองอธิบดีรักษาราชการแทนเพื่อลงนามจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งที่ตัวอธิบดียังอยู่
**00…”เติ้ง”ขอบคุณไม่ปรับชทพ.ออก
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการปรับครม.ในส่วนของพรรคว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง เพียงทราบข่าวจาก สื่อ คงต้องรอให้โปรดเกล้าฯก่อน ทั้งนี้การปรับครม.เป็นอำนาจและดุลยพินิจของนายกฯ แต่ไม่มีการปรับในส่วนของชทพ. ถือเป็นความกรุณา ของนายกฯที่ต้องการ ให้ทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป ทั้งนี้โดยส่วนตัวมองว่าการทำงานของนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.
เกษตรและสหกรณ์ ที่ผ่านมา ถือว่าพอใช้ได้ เป็นอดีตข้าราชการ ที่ทำงาน เข้มแข็ง แต่การทำงาน อาจบกพร่องบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้ามีปัญหาก็แก้ไขเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.ขณะนี้จะเหมาะสมและบ่อยเกินไปหรือไม่ เนื่องเพราะในปลายเดือนพ.ค.คนบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และอาจเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายบรรหาร กล่าวว่า ยังมีเวลาอีกหลายเดือน ซ่งการพิจารณาจริง ๆ จะอยู่ประมาณเดือน มิ.ย.และก.ค.ซึ่ง อยู่ในดุลยพินิจของนายกฯหรือเปล่าไม่รู้ การปรับครม.ถ้ามีจังหวะเวลาที่เหมาะสม จะทำตอนไหนก็ได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
” บางคนเกิดปัญหาไม่อยากอยู่หรือไม่สบายก็ต้องปรับ การทำงานจะดีขึ้นหรือไม่หลังจากปรับครม.ก็คงตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นรายชื่อ คงต้องรอให้มีการ โปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน ถึงจะพูดได้ว่าครม.ชุดใหม่จะใช้ได้หรือไม่จะดีหรือไม่ดี “
ต่อข้อถามว่า มีกระแสข่าวจะมีการปรับครม.ในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจ เป็นจำนวนมาก นายบรรหาร กล่าวว่า กระทรวงเศรษฐกิจมีความเหมาะสมทั้งนั้น แต่การทำงานประสานกันแต่ละกระทรวงจะทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่อยากวิจารณ์เป็นเรื่องของพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งอยู่ที่ความเหมาะสม
เมื่อถามว่า การปรับครม.แสดงว่านายกฯต้องการปรับในส่วนรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ นายบรรหาร กล่าวว่า “ใช่ เมื่อท่านนายกฯฟังข้อมูล ท่านก็อยากปรับ เปลี่ยนบ้างพอสมควร เช่น กรณีปัญหากับธนาคารแห่งประเทศไทย”
***00…”กิตติรัตน์”ปัดซดเกาเหลา″ธีระชัย”
ต่อมา เมื่อเวลา13.30น.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวก่อนถึงกระแสข่าวที่มีความขัดแย้งกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง ว่า ตนและนายธีระชัย ทำงานตามนโยบายและปรึกษาหารือกันตลอด ตนกับนายธีระชัยก็ขำๆ เพราะส่วนใหญ่ตนจะตอบในหลักการ แต่นายธีระชัยตอบในมาตรการ จึงดูขัด แย้งกัน แต่ทุกอย่างเหมือนกันหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากย้ายไปเป็น รมว.คลัง ตามกระแสข่าวจะทำงานได้เร็วกว่านายธีระชัย ที่โดนปรับออกหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า หากจะรับทำหน้าที่ตรงไหน ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดการสะดุดในการทำงาน ตนเชื่อมั่นการตัดสินใจของนายกฯ ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรย่อมมีเหตุผล หากจะให้ตนย้าย กระทรวง และเห็นว่ามีคนทำหน้าที่ได้ดีกว่า ย่อมน่ายินดีและเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นครม.เก่าหรือใหม่ ย่อมมีความตั้งใจเพื่อบ้านเมืองอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากย้ายไปเป็นรมว.คลังจริง น่าจะเหมาะกว่าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า หากให้พูดเข้าข้างตัวเอง การทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ ตนให้คะแนนเยอะ เพราะตนตั้งใจทำทุกงาน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะประเมินการทำงานของตน
ผู้สื่อข่าวถามถึงว่าเวลาในการปรับครม. ว่าเหมาะสมหรือไม่เพราะเพิ่งทำงานได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนหากมีเหตุผลดี ทำงาน รวดเร็ว และเหมาะสมย่อมเป็นสิ่งที่ดี มั่นใจนายกฯว่าหากถึงเวลาที่ควรปรับครม.ก็ควรสนับสนุน

ข่าว 1
0…เปิดครม.ปู20…ปรับทีมกู้ศก.0…ดัน”สุกำพล”คุมกองทัพ00…’เต้น”นั่งเสนาบดี00…ตกสวรรค์9เก้าอี้โปรย…เปิดโผ “ครม.ปู 2 “ปรับใหญ่ทีมศก.ใช้ตัวจริงทำหน้าที่  “สุกำพล” พร้อมรับคุมกองทัพ “อารักษ์”นั่ง พลังงาน “จารุพงศ์”นั่งแป้นคมนาคม “ณัฐวุฒิ” ผงาด ช่วยเกษตรฯ “บุญทรง” ขึ้นชั้นเบอร์1พาณิชย์ “กิตติรัตน์” ควบคลัง “ธีระชัย”ตกสวรรค์ ดัน”สุชาติ” ขึ้นแท่นเสมา1  “เทพไท”เหน็บบำเหน็จแดง แถมเสี้ยม “ก้าน-ตู่” ชู″จตุพร”เหนือชั้นกว่า “เติ้ง”ขอบคุณนายกฯไม่ตะเพิดชทพ.    

                    วานนี้(17ม.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ  และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการสลับและปรับหลายตำแหน่งสำคัญ ว่า การตัดสินใจเป็นสิทธิขาดที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเคาะได้ทันที ไม่จำเป็นต้องพิจารณากรอบเวลา ส่วนรายชื่อที่จะมีการปรับเปลี่ยนนั้น จากที่ สื่อนำเสนอตนเห็นว่าแม่นยำกว่า 90%          ทั้งนี้นายกิตติรัตน์ ยังเชื่อว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จะเป็นผลดีต่อประเทศ เพราะทำให้การทำงานมีความเข้มแข็งมากขึ้น บางคนถูกโยกไปที่อื่นที่งานหนักขึ้น บางคนไปทำงานนอก ครม. แต่หลังจากปรับ ครม.แล้ว เชื่อว่ายังมีการทำงานต่อเนื่อง เพราะเป็นการกำหนดนโยบายรัฐบาล        “ส่วนตัว นายกฯ ไม่เคยมาบอกอะไร ไปโน่นมานี่ เป็นดุลพินิจของนายกฯ ทั้งหมด” 

        ด้านพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม กล่วยอมรับว่าไม่รู้เรื่องการปรับ ครม.เลย ทั้งเรื่องที่ว่ามีการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว หรือแม้แต่ข่าวถูกโยกไปเป็น รมว. แทนพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ซึ่งเพิ่งรู้จากสื่อเมื่อเช้าวันนี้          “ยังคงยืนยันว่าหากถูกปรับออกจริง ก็พร้อมยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ หรือหากถูกโยกย้ายไปคุมกลาโหมก็พร้อม หากนายกฯเห็นว่าเหมาะสม”       ** 00…”สุชาติ”  โวรคน่างนโยบายศึกษา        นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)  กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.และมีชื่อเขาไปเป็นรมว.ศึกษาธิการ ว่ายังไม่ทราบแน่นอน ต้องรอให้มีความชัดเจนก่อน อย่างไรก็ตาม ตนเป็นผู้ร่างนโยบายด้านการศึกษาให้แก่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย         สำหรับนโยบายด้านการศึกษานั้น

 จะลดรายจ่ายครูด้วยการไม่ให้ซื้อขายตำแหน่ง ทุกครั้งที่แต่งตั้งโยกย้ายทราบว่ามีการจ่ายเงินจำนวนมาก ครูที่ต้องการย้าย จึงต้องไปกู้เงินมา ทำให้ครูเป็นหนี้ ดังนั้นการลดหนี้คือการไม่มีซืิ้่อขายเก้าอี้ ส่วนนโยบายเพิ่มรายได้นั้น จะให้คนไทยทุกคนจบ ม.6 ดังนั้นจะให้ครูเปิดสอนวัน เสาร์-อาทิตย์ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้       ***00…รมต.เก่าหลุดวงโคจร 9คน            รายงานข่าวระบุว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่ามา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำรายชื่อครม.ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว โดยมีการปรับทั้งสิ้น 16 ตำแหน่ง ดังนี้            1.นายกิตติรัตน์ ณ

ระนอง รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เป็น รองนายกฯและรมว.คลัง 2.พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม เป็นรองนายกฯ 3.พล.อ.อ. สุุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม เป็น รมว.กลาโหม 4.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นรมว.คมนาคม 5.นายอารักษ์ ชลธารนนท์ อดีตผู้บริหารไทยคม เป็นรมว.พลังงาน 6.นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง เป็นรมว.ศึกษาธิการ       

    7.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เป็นรมว.พาณิชย์  8.นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ เป็น รมต.สำนักนายกฯ 9.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นรมต.สำนักนายกฯ 10.นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เป็นรมต.สำนักนายกฯ 11.นายณัฐวุฒิใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค เพื่อไทย เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ 12.นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.สำนักนายกฯ เป็นรมช.สาธารณสุข 13.นายศักดา คงเพชร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็น รมช.ศึกษา ธิการ  14.นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็น รมช.คลัง 15.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคม จากจุฬาลงกรณ์ เป็นรมช.คมนาคม และ16. ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ อดีตคณบดีคณะนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรม

ศาสตร์ เป็นรมว. อุตสาหกรรม       สำหรับการปรับ ครม.ครั้งนี้ มีผู้หลุดจากตำแหน่งท รวมั้งสิ้น 9 ราย ดังนี้            1.พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ 2.นายธีระชัย ภวนาถนรานุบาล รมว.คลัง 3.นายพิชัย นรพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน 4.น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.สำนักนายกฯ5.นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.คมนาคม 6.นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 7.นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข 8.นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพร วิไล รมช.ศึกษาธิการ และ 9.นพ.วรรณรัตน์

ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม*

**00…ฐิติมายันโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว          ทางด้านนางฐิติมา ฉายแสง โฆษกสำนักนายกกล่าวยอมรับว่าได้มีการนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าใครจะอยู่กระทรวงไหน บ้างและไม่อยาก ให้เปิดเผยในเรื่องนี้ ทั้งนี้การปรับครม.เป็นไปตามที่เป็นข่าว ซึ่งจะมีบางคนที่เข้ามาและบางคนที่ออกไป รวม10 กว่าตำแหน่ง          ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่จะมีการปรับตำแหน่งโฆษกสำนัก

นายกฯ นั้นจริงหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐ มนตรี แต่ตนยินดีหากใคร มาทำหน้าที่นี้ เพราะงานตรงนี้เป็นงานที่ยากซึ่งต้องรู้ทุกเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและต่างประเทศ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครจะมา ช่วยทำ งานนี้ให้ได้บ้าง แต่ตนจะ ทำงานไปจนถึงนาทีสุดท้ายเท่าที่ทำได้ โดยการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายกฯไม่ว่าจะปรับ เปลี่ยนรัฐมนตรีหรือตำแหน่งใดก็แล้วแต่ ปล่อย ให้ นายกฯ มีแนวคิดเป็นของตัวเอง          ต่อข้อถามว่า ส่วนตัวอยากทำงานต่อหรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า งานโฆษกสำนักนายกฯเป็นงานที่ท้าทายมาก แต่คิดว่าการทำงานยังไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ เพราะว่าองคาพยพไม่สามารถซัพพอร์ตได้ดีนัก ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันให้มากยิ่งขึ้น คิดว่าหากครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนเอาคนใหม่เข้ามา ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น         

   ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวระบุว่าจะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นรองเลขาธิการนายกฯ นางฐิติมา กล่าว ไม่ทราบ ตนยังไม่เคยได้ยิน ซึ่งตนจะถนัดในการติดตามงาน อาจจะไม่ใช่คนที่จะมาอยู่หน้าทีวีบ่อยๆ         “ขณะนี้ได้มีการโปรดเกล้าฯ รายชื่อครม.แล้ว ซึ่งรายชื่อทั้งหมดอยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กำลังตรวจสอบรายชื่อ ที่ถูก ต้องอยู่ก่อนที่จะเผยแพร่” นางฐิติมา กล่าว***00…ปชป.ชี้ปรับครม.ปูนบำเหน็จแดงชัด       

   นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกระแสการปรับครม.ว่า เป็นไปตามความคาดหมายที่รวบรัดการปรับครม.โดยเร็ว เพราะกลัวแรงกระเพื่อมที่จะเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย อีกทั้ง การปรับครม.ครั้งนี้ เป็นการเปิดทางให้แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ามา รับตำแหน่งแน่นอน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงนั้น มีความสำคัญในพรรคเพื่อไทยและยึดอำนาจภายในพรรคเพื่อไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งในประเด็นดัง กล่าวนี้ ยังเห็นได้จากการบีบบังคับให้ ครม.มีมติชดเชยเงินเยียวยาให้คนเสื้อแดง ศพละ7.75 ล้านบาทได้สำเร็จ และมาครั้งนี้ก็เข้ายึดตำแหน่งทางการเมืองในครม.ได้อีก         

 นายเทพไท กล้่าวด้วยว่าภายหลังการเลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทย ยังแสดงท่าทีเหนียมอาย และห่วงกระแสสังคม ที่ไม่กล้าให้ตำแหน่ง รมต.กับแกนนำคนเสื้อแดง แต่ผ่านมาแค่ 4 เดือน ที่สุดก็เปิดเผยธาตุแท้ว่า คนเสื้อแดงต้องทวงบุญคุณเสียงสนับสนุนของมวลชนของตัวเองจนได้เป็นรัฐบาล เพราะหากไม่มีการสนองตอบ ต่อความ ต้องการของคนเสื้อแดง รัฐบาลนี้อาจจะมีปัญหาทางการเมืองได้ เพราะยังมีภารกิจใหญ่ ที่รัฐบาลนี้ต้องทำอีกหลายอย่างซึ่งยังต้องพึ่งคนเสื้อแดง เช่นการแก้ไขรัฐธรรม นูญ เพื่อเปิดทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางกลับประเทศ และการทวงคืนทรัพย์สินที่ถูกศาลสั่งยึดทรัพย์   

      นายเทพไท กล่าวว่า หากรัฐบาลมีความคิดที่จะปูนบำเหน็จให้คนเสื้อแดง ก็ควรสนับสนุนให้นายจตุพร พรหมพันธ์ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้ารับ ตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย เพราะหากเปรียบเทียบคุณสมบัติกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  ที่มีข่าวว่าจะได้รับตำแหน่ง กับนายจตุพรจะเห็นว่า นายจตุพร มีคุณสมบัติเหนือกว่าหลาย ด้าน ทั้งวัยวุฒิ ความอาวุโสทางการเมือง ความรู้ความสามารถ ความกล้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ด้อยกว่านายณัฐวุฒิ ประกอบกับนายจตุพร กำลังอยู่ ระหว่างกระบวนการตีความของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะขาดสมาชิกภาพจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยก็ควรปูนบำเหน็จให้นายจตุพร เป็นรมต.เพื่อรองรับ การหลุดพ้นจากการเป็นส.ส.           นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.ปชป.กล่าวถึงการปรับครม.ว่า โดยส่วนตัวมองว่ารัฐบาลมีอำนาจและมีสิทธิที่จะกระทำการได้ เพียงแต่ว่าการปรับนั้น เป็นเพียงการ เปลี่ยนตัวผู้แสดงหรือเบี้ยทางการเมือง เพราะสุดท้ายก็ยังเป็น ครม.ที่เป็นระบบทักษิณส่วนหน้า นอกจากนี้การปรับ ครม. เป็นการปรับที่มีลักษณะต่างตอบแทนบาง กระทรวง โดยมีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามจะเป็นกระทรวงไหนนั้นตนไม่สามารถตอบได้คงต้องรอดูไปสักระยะก่อน***00″”"แส่ข้องไม่เด้ง”ประชา-ยงยุทธ”       

  นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ สภาฯ  กล่าวถึงการ ปรับครม.ของรัฐบาลว่า การที่นายกฯได้ตัดสินใจปรับครม.ซึ่งถือเป็นสิทธิและอำนาจของนายกฯในการตัดสินใจ แต่แปลกใจในส่วนที่ควรปรับแต่ไม่ปรับ โดยเฉพาะ 2 คนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์การทำงานได้แก่การบริหารจัดการศปภ. คือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. รวมถึงนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย

ในฐานะประธานกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกฯ ที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ซึ่งเมื่อนายกฯเชื่อข้อมูลของทั้ง สองคน นายกฯก็ต้องร่วมรับผิดชอบหากในอนาคตเกิดปัญหาขึ้นเช่นกัน          ทั้งนี้ในส่วนความคืบหน้าการพิจารณากรณีการจัดซื้อถุงยังชีพ 1 แสนถุง ถุงล่ะ 800 บาท วงเงิน 80 ล้านบาท ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในส่วนของกมธ. ป.ป.ช. นั้น ในวันที่ 19 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ อธิบดีปภ.จะเข้าชี้แจงกมธ. โดยกมธ.ตั้งประเด็นต้องการคำชี้แจงกระบวนการจัดซื้อในภาพรวม โดยเฉพาะการใช้อำนาจของนายวิบูลย์ ในการตั้งรักษาราชการแทนอธิบดี จนมีการลง

นามในการจัดซื้อถุงยังชีพจนเกิดปัญหาขึ้น โดยเบื้องต้นมีข้อสงสัยว่ามีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องตั้งรองอธิบดีรักษาราชการแทนเพื่อลงนามจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งที่ตัวอธิบดียังอยู่**00…”เติ้ง”ขอบคุณไม่ปรับชทพ.ออก          นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการปรับครม.ในส่วนของพรรคว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง เพียงทราบข่าวจาก สื่อ คงต้องรอให้โปรดเกล้าฯก่อน ทั้งนี้การปรับครม.เป็นอำนาจและดุลยพินิจของนายกฯ แต่ไม่มีการปรับในส่วนของชทพ. ถือเป็นความกรุณา ของนายกฯที่ต้องการ ให้ทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป ทั้งนี้โดยส่วนตัวมองว่าการทำงานของนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ผ่านมา ถือว่าพอใช้ได้ เป็นอดีตข้าราชการ ที่ทำงาน เข้มแข็ง แต่การทำงาน อาจบกพร่องบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้ามีปัญหาก็แก้ไขเท่านั้น     

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.ขณะนี้จะเหมาะสมและบ่อยเกินไปหรือไม่ เนื่องเพราะในปลายเดือนพ.ค.คนบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และอาจเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายบรรหาร กล่าวว่า ยังมีเวลาอีกหลายเดือน ซ่งการพิจารณาจริง ๆ จะอยู่ประมาณเดือน มิ.ย.และก.ค.ซึ่ง อยู่ในดุลยพินิจของนายกฯหรือเปล่าไม่รู้ การปรับครม.ถ้ามีจังหวะเวลาที่เหมาะสม จะทำตอนไหนก็ได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ          ” บางคนเกิดปัญหาไม่อยากอยู่หรือไม่สบายก็ต้องปรับ การทำงานจะดีขึ้นหรือไม่

หลังจากปรับครม.ก็คงตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นรายชื่อ คงต้องรอให้มีการ โปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน ถึงจะพูดได้ว่าครม.ชุดใหม่จะใช้ได้หรือไม่จะดีหรือไม่ดี “           ต่อข้อถามว่า มีกระแสข่าวจะมีการปรับครม.ในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจ เป็นจำนวนมาก นายบรรหาร กล่าวว่า กระทรวงเศรษฐกิจมีความเหมาะสมทั้งนั้น แต่การทำงานประสานกันแต่ละกระทรวงจะทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่อยากวิจารณ์เป็นเรื่องของพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งอยู่ที่ความเหมาะสม          เมื่อถามว่า การปรับครม.แสดงว่านายกฯต้องการปรับในส่วนรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ นายบรรหาร กล่าวว่า “ใช่ เมื่อท่านนายกฯฟังข้อมูล ท่านก็อยากปรับ เปลี่ยนบ้างพอสมควร เช่น กรณีปัญหากับ

ธนาคารแห่งประเทศไทย”**

*00…”กิตติรัตน์”ปัดซดเกาเหลา″ธีระชัย”         ต่อมา เมื่อเวลา13.30น.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวก่อนถึงกระแสข่าวที่มีความขัดแย้งกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง ว่า ตนและนายธีระชัย ทำงานตามนโยบายและปรึกษาหารือกันตลอด ตนกับนายธีระชัยก็ขำๆ เพราะส่วนใหญ่ตนจะตอบในหลักการ แต่นายธีระชัยตอบในมาตรการ จึงดูขัด แย้งกัน แต่ทุกอย่างเหมือนกันหมด         

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากย้ายไปเป็น รมว.คลัง ตามกระแสข่าวจะทำงานได้เร็วกว่านายธีระชัย ที่โดนปรับออกหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า หากจะรับทำหน้าที่ตรงไหน ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดการสะดุดในการทำงาน ตนเชื่อมั่นการตัดสินใจของนายกฯ ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรย่อมมีเหตุผล หากจะให้ตนย้าย กระทรวง และเห็นว่ามีคนทำหน้าที่ได้ดีกว่า ย่อมน่ายินดีและเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นครม.เก่าหรือใหม่ ย่อมมีความตั้งใจเพื่อบ้านเมืองอยู่แล้ว           เมื่อถามว่าหากย้ายไปเป็นรมว.คลังจริง น่าจะเหมาะกว่าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า หากให้พูดเข้าข้างตัวเอง การทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ ตนให้คะแนนเยอะ เพราะตนตั้งใจทำทุกงาน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะประเมินการทำงานของตน            ผู้สื่อข่าวถามถึงว่าเวลาในการปรับครม. ว่าเหมาะสมหรือไม่เพราะเพิ่งทำงานได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนหากมีเหตุผลดี ทำงาน รวดเร็ว และเหมาะสมย่อมเป็นสิ่งที่ดี มั่นใจนายกฯว่าหากถึงเวลาที่ควรปรับครม.ก็ควรสนับสนุน

 
   Link to Post - Back to Top

Bookmark and Share

Reply topic :: แสดงความคิดเห็น
ชื่อผู้โพสต์:  เช่น John
ภาพไอคอน:
icon
แปะรูป:
 
รายละเอียด:
Emotion:




Security Code:
Verify Code 
 
   Bookmark and Share
   Main webboard   »   เว็บบอร์ด
 ย้อนกลับ  |  ตั้งกระทู้ใหม่  
Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 275,233 Today: 64 PageView/Month: 1,151

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...