วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง)
เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก
|
วัดสำราญนิเวศ
Main webboard
»
เว็บบอร์ด
ย้อนกลับ
|
ตั้งกระทู้ใหม่
Started by
Topic:
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม (Read: 14351 times - Reply: 18 comments)
วชิรานนท์ บุญเย็น
Posts: 0 topics
Joined: none
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
« Thread Started on 29/6/2554 12:26:00 IP : 113.53.46.213 »
…
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
…
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
เลขที่
1
ถ
.
สุปัฏน์ ต
.
ในเมือง อ
.
เมืองอุบลราชธานี
พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
4
มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้คณะกรรมการเมืองอุบลราชธานี
มีเจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที่
3
คือ พระพรหมราชวงศา
(
กุทอง
)
(
ครองเมืองอุบลราชธานีคนที่
3
แต่ พ
.
ศ
.2388 – 2409 )
เป็นประธานพิจารณาหาพื้นที่สร้างวัดเห็นว่าบริเวณแห่งนี้ เป็นที่สงัด
สะดวกแก่ผู้ที่บำเพ็ญศาสนกิจและสะดวกแก่การออกบิณฑบาตเพราะเป็นท่าที่อยู่คุ้งน้ำพอดี
จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล ทรงโปรดเกล้าฯให้ลงมือปรับพื้นที่ในพ
.
ศ
.2393
และแล้วเสร็จประกาศเป็นวัดในพ
.
ศ
.2396
โดยพระราชทานนามว่า
“
วัดสุปัฏนาราม
“
ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้เจ้าเมืองอุบลราชธานี ไปอาราธนา ท่านพันธุโล
(
ดี
)
และท่านเทวธัมมี
(
ม้าว
)
มาครองวัด ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
1.)
พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์
10
ชั่ง
(800
บาท
) 2.)
พระราชทานตั้งถวายเจ้าอาวาส เดือนละ
8
บาท
3.)
ทรงตั้งคนทำงานประจำวัด
60
คน
เจ้าอาวาสรูปแรก ที่เจ้าเมืองอุบลราชธานีได้อาราธนามาปกครองวัด คือ
ท่านพันธุโล
(
ดี
)
เดิมท่านเกิดที่บ้านหนองไหล ต
.
หนองขอน อ
.
เมือง จ
.
อุบลราชธานี
ท่านบรรพชาอุปสมบทที่วัดหนองไหล ไปอยู่วัดเหนือในเมืองอุบลราชธานี ต่อมาท่านเดินทางไปศึกษาพระปริยัติธรรมที่กรุงเทพมหานคร ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ภายหลังมีผู้นำถวายตัวในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงผนวช ประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยเปลี่ยนจากมหานิกาย เป็นธรรมยุตนิกาย
วัดสุปัฏนารามถือได้ว่าเป็นวัดธรรมยุตนิกายเป็นวัดแรกของจังหวัดอุบลราชธานีและในภาคอีสานในระหว่างท่านเป็นเจ้าอาวาสได้ขยายเครือข่ายวัดสังกัดธรรมยุตเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นวัดศรีทอง
(
วัดศรีอุบลรัตนาราม ปัจจุบัน
) ,
วัดสุทัศนาราม
,
วัดไชยมงคล
(
ทั้ง
3
วัดอยู่ติดบริเวณทุ่งศรีเมือง
)
วัดสระแก้ว อ
.
พิบูลมังสาหาร และสุดท้ายวัดหอก่อง อ
.
มหาชนะชัย
ท่านพันธุโล
(
ดี
)
ท่านมรณภาพที่วัดสระแก้ว เมืองพิบูลมังสาหารรวมอายุได้
70
ปี เจ้าอาวาสรูปที่
2
คือ พระอธิการเพ็ง รูปที่
3
พระอธิการเพชร รูปที่
4
พระอธิการสีโห รูปที่
5
พระอธิการสี
และมาติดตามรูปที่
6
พระญาณรักขิต
(
สิริจันโท จันทร์
)
ต่อมาเป็นพระอุบาลีคุณูปมาจารย์
และรูปที่
7
พระราชมุนี
(
ติสโส อ้วน
)
ต่อมาเป็นสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ซึ่งทั้ง
2
ท่าน เป็นผู้จุดประกายการศึกษาอย่างกว้างขวางและเป็นที่มาของคำขวัญที่ว่า
“
อุบลราชธานี เมืองแห่งนักปราชญ์
“
(
สมัยรัชกาลที่
7
พ
.
ศ
. 2478
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะวัดขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร
มีนามเต็มว่า
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
)
มีนามว่าพระญาณรักขิต
ต่อมาได้รับการยกย่องว่า เป็นจอมปราชญ์
เนื่องจากเป็นผู้ส่งเสริมและวางระบบการศึกษาในภาคอีสานและมีคำขวัญที่ว่า
“
อุบลเมืองแห่งนักปราชญ์
“
มาจนทุกวันนี้
พระญาณรักขิตต่อมา คือ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
(
สิริจันโท จันทร์
สุภสร
)
เกิดเมื่อวันศุกร์ที่
20
มีนาคม
2399
ซึ่งตรงกับวันแรม
10
ค่ำ เดือน
4
ปีมะโรง ที่บ้านหนองไหล
ต
.
หนองขอน อ
.
เมือง จ
.
อุบลราชธานี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรในปี พ
.
ศ
. 2412
ที่วัดบ้านหนองไหลบ้านเกิด จากนั้นได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนทีวัดศรีทอง
(
วัดศรีอุบลรัตนาราม
)
ในปี
2420
ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยท่านเทวทัมมี
(
ม้าว
)
เป็นพระอุปัชฌาย์ และในปีพ
.
ศ
. 2422
ได้เดินทางไปศึกษาในกรุงเทพมหานครอยู่และศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดเทพศิรินทราวาส
ต่อมาย้ายไปพำนักและศึกษาที่วัดบุปผารามสอบเปรียญธรรม
3
ประโยคได้ในปี พ
.
ศ
. 2429
เมื่อกลับไปจำพรรษาที่วัดเทพศิรินทราวาสสอบเปรียญธรรม
4
ประโยคได้ในพ
.
ศ
. 2437
ผลงานในด้านการศึกษา ท่านเป็นผู้วางรากฐานการศึกษา ภาษาไทย ภาษาบาลี ให้มีความมั่นคงเมื่อท่านกลับมาอยู่เมืองอุบลราชธานี ในปีพ
.
ศ
.2430
ริเริ่มจัดการศึกษาให้เป็นปึกแผ่น ได้ตั้งโรงเรียนบูรพาสยามเขต ที่เมืองนครจำปาศักดิ์
(
สปป
.
ลาว
)
ตั้งโรงเรียนอุบลวิทยาคม ที่วัดสุปัฏนาราม ตั้งโรงเรียนอุดมวิทยากร ที่วัดในเมืองพนานิคม ผลการตั้งโรงเรียนทำให้การเรียนภาษาไทยและบาลีแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเมื่อท่านกลับไปจำพรรษาที่กรุงเทพมหานคร ได้เป็นครูใหญ่สำนักเรียนวัดเทพศิรินทราวาส
เป็นกรรมการสภามหามกุฏราชวิทยาลัย
ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการการศึกษาภาคอีสาน ท่านได้จัดการศึกษาภาษาไทย และบาลีให้แพร่หลายไปทั่วภาคอีสาน
ในด้านการปกครองท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในการบริหารคณะสงฆ์เป็นจำนวนมากเป็นต้นว่าเจ้าอาวาสวัดมหามาตยารามนครจำปาศักดิ์ เจ้าคณะสังฆปาโมกข์นครจำปาศักดิ์
เจ้าคณะมณฑลอีสาน
เจ้าคณะมณฑลจันทบุรี
เจ้าคณะมณฑลราชบุรี
เจ้าคณะมณฑลกรุงเทพฯ เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส เป็นต้น
คนอีสานและชาวอุบลราชธานีต่างภาคภูมิใจที่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เป็นผู้ส่งเสริมและวางระบบการศึกษาในภาคอีสานได้รับการยกย่องตลอดมาว่า เป็นจอมปราชญ์ของชาวอุบลราชธานี หรือเมืองอุบลเป็นเมืองแห่งนักปราชญ์ ท่านมรณภาพ วันที
19
กรกฏาคม พ
.
ศ
. 2475
สิริรวมอายุได้
77
ปี
พระเถระซึ่งเคยเป็นเจ้าอาวาสรูปที่
7
ในปี พ
.
ศ
. 2446
คือ พระราชมุนี ต่อมาคือ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
(
ติสโส
อ้วน
แสนทวีสุข
)
ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นพระนักเทศน์ นักพัฒนา นักปรกครอง นักประพันธ์ ของจังหวัดอุบลราชธานี
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
(
ติสโส
อ้วน
)
เกิดวันเสาร์ที่
21
มีนาคม
2410
ที่บ้านแคน ต
.
ดอนมดแดง อ
.
ดอนมดแดง
(
เดิมเป็น อ
.
เมืองอุบลฯ
)
จ
.
อุบลราชธานี
หมู่บ้านนี้นับได้ว่ามีเกาะดอนมดแดง เป็นที่เริ่มต้นการอพยพหนีภัยสงครามมาตั้งบ้านเมืองครั้งแรกของเจ้าคำผง เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรก
ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้
19
ปีในพ
.
ศ
.2429
ที่วัดบ้านสว่าง อ
.
สว่างวีรวงศ์ในปัจจุบัน ย้ายไปศึกษาที่วัดศรีทอง
(
วัดศรีอุบลรัตนาราม
)
และได้อุปสมบทที่นี่มี
พระเทวธัมมี
(
ม้าว
)
เป็นพระอุปัชฌาย์
พระโชติปาลเถระ
(
ทา
)
เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์
(
จันทร์ สิริจันโท
)
เป็นอุเทศาจารย์ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่วัดศรีทองระยะหนึ่งเมื่อพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ได้รับตำแหน่งครูบาลีที่วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ท่านก็ได้ย้ายไปอยู่ด้วยศึกษาเล่าเรียนจนจบเปรียญตรีและโทตามลำดับในพ
.
ศ
.2442
ต่อมาพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ได้ก่อตั้งโรงเรียนอุบลวิทยาคมที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้รับมอบหมายกลับจังหวัดอุบลราชธานีมาเป็นครูสอนภาษาไทย และ
ภาษาบาลี และเป็นครั้งแรกของจังหวัดอุบลราชธานีที่มีการเรียนการสอนภาษาไทยและบาลีท่านได้อุปถัมภ์โรงเรียนนี้ซึ่งต่อมาเป็นโรงเรียนการกุศลของวัดสำหรับพระภิกษุสามเณร และลูกหลานชาวอุบลฯได้ศึกษาเล่าเรียน
ท่านมีความสามารถด้านการศึกษาและการปกครอง สมัยจอมพล ป
.
พิบูลสงคราม
ได้สร้างวัดพระศรีมหาธาตุเพื่อเป็นอนุสรณ์สมัยประชาธิปไตยเสร็จในพ
.
ศ
. 2485
ได้นิมนต์ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ท่านเป็นนักเทศน์ นักประพันธ์
เจ้าของคติธรรมคำขวัญเตือนใจอันลึกซึ้งทั้งทางคดีโลกและคดีธรรม
คดีโลก เช่น
“
ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ
“
คดีธรรมเช่น
“
ผู้หาบโลกอยู่ในระดับต่ำ ผู้หิ้วโลกอยู่ในระดับกลาง ผู้วางโลกอยู่ในระดับสูง
“
และเป็นผู้เสกประเทศไทยทั้ง
4
ภาคเป็นถิ่นต่างๆดังนี้ เสกภาคกลางเป็นถิ่นจอมไทย ภาคเหนือเป็นถิ่นไทยงาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นถิ่นไทยดี และภาคใต้เป็นถิ่นไทยอุดม สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
(
ติสโส อ้วน
)
นับว่าเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นพระเถระนักบริหารปกครองที่มีชื่อเสียงอย่างมากในวงการคณะสงฆ์ของเมืองไทยท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสังฆนายกองค์แรกของคณะสงฆ์ไทยด้วย ในจังหวัดอุบลราชธานีถือได้ว่าท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ได้รับการยกย่องเป็นปราชญ์เมืองอุบลฯ
ชาวเมืองอุบลฯสร้างอนุสรณ์เพื่อเป็นเกียรติต่อท่านดังนี้
-
มีการสร้างอนุสรณ์รูปปั้นให้ประชาชนทั่วไปสักการะบูชาที่ทุ่งศรีเมือง
คู่กับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ด้านหลังศาลหลักเมือง ติดกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
-
เปลี่ยนชื่อโรงเรียนอุบลวิชาคมวัดสุปัฏนารามวรวิหารเป็นโรงเรียนสมเด็จ
-
ชาวอุบลฯจำนวนมากขอเปลี่ยนนามสกุลเป็น
แสนทวีสุข ตามท่าน
-
ตั้งชื่ออำเภอสว่างวีรวงศ์
(
บ้านสว่าง
+
วีรวงศ์
)
จ
.
อุบลราชธานี
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
(
ติสโส อ้วน แสนทวีสุข
)
มรภาพ เมื่อ
26
มกราคม
2499
ที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ สิริอายุ
ได้
89
ปี
โดยภาพรวมแล้ววัดนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
4
ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเป็นวัดธรรมยุตแห่งแรกในภาคอีสานเป็นศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาและศูนย์รวมการศึกษาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาบาลี มีพระอุโบสถโดดเด่นด้านศิลปะ
3
สกุลรวมอยู่ในหลังคาเดียวกัน คือหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ ตรงกลางเป็นศิลปะแบบยุโรป ส่วนฐานเป็นศิลปะแบบขอมโบราณ ผู้ดำเนินการก่อสร้างคือสมเด็จพระมหาวีรวงศ์
(
ติสโส
อ้วน แสนทวีสุข
)
หลวงสถิตวิมานการ
(
ชวน สุปิยพันธ์
)
ผู้ออกแบบ เตรียมอุปกรณ์ก่อสร้างแต่พ
.
ศ
.2460
ลงมือก่อสร้างแต่พ
.
ศ
.2463
สร้างเสร็จเมื่อพ
.
ศ
. 2473
ผูกพัทธสีมาจัดงานฉลอง พ
.
ศ
.2479
ขนาดความยาว
34
เมตร
กว้าง
20
เมตร
สูง
22
เมตร
สิ้นค่าก่อสร้างสมัยนั้น จำนวน
70.000
บาท ภายในพระอุโบสถ
มีพระพุทธรูปประธานคือพระสัพพัญญูเจ้า หล่อด้วยโลหะผสมขัดเงาเมื่อปี พ
.
ศ
.2459
และ
ที่สำคัญคือพระพุทธรูปพระแก้วขาวเพชรน้ำค้างที่ศักดิ์สิทธิ์ชาวเมืองอุบลราชธานีให้ความเคารพนับถือ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีทางวัดได้จัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกราบไหว้และสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล เหมือนกับที่วัดศรีอุบลรัตนาราม มีพิธีสรงน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี และมีพระพุทธรูปที่สำคัญอีกหลายองค์ วัดสุปัฏนารามนอกจากจะเป็นต้นแบบสายธรรมยุตแล้วยังเป็นแหล่งให้การศึกษาที่สมบูรณ์ในเขตอีสาน มีการตั้งโรงเรียนแห่งแรกของจังหวัดอุบลฯคือ รร
.
อุบลวิทยาคม เปลี่ยนมาเป็น รร
.
อุบลวิชาคม และปัจจุบันคือ รร
.
สมเด็จ ซึ่งเป็นโรงเรียนการกุศลของวัด ในสมัยรัชกาลที่
7
พ
.
ศ
. 2478
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯยกฐานะของวัดขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร จึงมีนามเต็มว่า วัดสุปัฏนารามวรววิหาร
ตั้งแต่สร้างวัดมาแต่พ
.
ศ
. 2396
จนถึงปัจจุบัน ดังนี้
1.
พระอธิการดี
พันธุโล
2.
พระอธิการเพ็ง
3.
พระอธิการเพชร
4.
พระอธิการสีโห
5.
พระอธิการสี
6.
พระญาณรักขิต
(
ต่อมาคือพระอุบาลีคุณูปมาจารย์
สิริจันโท จันทร์
สุภสร
จอมปราชญ์หรือนักปราชญ์เมืองอุบลฯ
) 7.
พระราชมุนี
(
ต่อมาคือ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ติสโส
อ้วน
แสนทวีสุข พระนักปราชญ์ นักเทศน์ นักปกครองฯลฯ
) 8.
พระครูประจักษ์อุบลคุณ
9.
พระเทพบัณฑิต ญาณชาโล
(
ญาณ
) 10.
พระเทพกวี เสนโก
(
นัด
ทับทอง
) 11.
พระโพธิญาณมุนี ปภาโส
(
ภา
) 12.
พระวิจิตรธรรมภาณี สุขปุญโญ
(
สิงห์
)
13.
พระรัตนมงคลมุนี ตปนิโย
(
ยงยุทธ
)
14.พระมหาทองจันทร์
(วชิรานนท์ บุญเย็น /ดีเจบ่าวนนท์ คนมักจ่ม เรียบเรียง)
Link to Post
-
Back to Top
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
จำนวนข้อความทั้งหมด:
9
1
แสดงความคิดเห็น
Krystallynn
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 9
« on 19/11/2556 5:43:00 IP : 23.226.224.213 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
Link to Post
-
Back to Top
Lottie
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 8
« on 18/11/2556 18:00:00 IP : 78.47.191.253 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
Link to Post
-
Back to Top
Jetsyn
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 7
« on 18/11/2556 1:33:00 IP : 206.176.239.103 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
Link to Post
-
Back to Top
Rosa
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 6
« on 17/11/2556 10:41:00 IP : 177.11.213.7 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
Link to Post
-
Back to Top
Kaedon
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 5
« on 16/11/2556 1:19:00 IP : 162.234.83.50 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
Link to Post
-
Back to Top
Danuporn
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 4
« on 14/5/2556 14:16:00 IP : 103.14.20.28 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
For the love of God, keep writing these arteilcs.
Link to Post
-
Back to Top
Oralia
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 3
« on 12/5/2556 21:57:00 IP : 177.224.76.94 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
I can't believe I've been going for years without knownig that.
Link to Post
-
Back to Top
Madina
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 2
« on 12/5/2556 18:01:00 IP : 85.224.254.18 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
Many many quality piotns there.
Link to Post
-
Back to Top
Tuesday
Posts: 0 topics
Joined: none
ความคิดเห็นที่ 1
« on 24/11/2555 14:27:00 IP : 173.234.53.98 »
Edit Topic
Re: วัดสุปัฏนารามวรวิหาร อุบลฯโดย บ่าวนนท์ คนมักจ่ม
His public defender, DeWayne Franklin Perry, declined comment Tuesday.
Link to Post
-
Back to Top
1
Reply topic :: แสดงความคิดเห็น
ชื่อผู้โพสต์:
เช่น John
ภาพไอคอน:
Standard
Thumbs Up
Thumbs Down
Exclamation Point
Question Mark
Lamp
Smiley
Angry
Cheesy
Laugh
Sad
Wink
แปะรูป:
รายละเอียด:
Emotion:
Security Code:
Main webboard
»
เว็บบอร์ด
ย้อนกลับ
|
ตั้งกระทู้ใหม่
Advertising Zone
Close
Emerald Dragon @ Manipulator by Watsamranniwet
Online:
1
Visits: 274,338
Today: 41
PageView/Month: 144
ด้วยความปราถนาดีจาก
"สยามทูเว็บดอทคอม"
และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ
อ่านเพิ่มเติม ...